“Not if but When” ไม่อาจจะไม่ใช่คำว่า “ถ้า” เพราะมันเป็นคำถามที่ว่า “เมื่อไหร่”ที่วิกฤตสุขภาพจะเกิดขึ้นอีกครั้งบนโลกใบนี้
การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสที่ในขณะนี้มีผู้เสียชีวิตด้วยความร้ายแรงของไวรัสชนิดนี้หลายล้านคน และหลายประเทศยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ทำให้เกิดวิกฤตด้านสุขภาพแบบที่ล้มเหลว และบางประเทศมีระบบเศรษฐกิจที่ล่มสลาย
จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากการรายงานของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอป กินส์ มีมากถึง 2.7 ล้านคน และผู้ติดเชื้อดไวรัสโคโรนาไปแล้วถึง 127 ล้านคน
มีการเรียกร้องจากหลาย ๆ ประเทศเพื่อร่วมกันหารือในการหาทางยับยั้งและแก้ปัญหาในอนาคต โดยเรียกร้องให้แต่ละประเทศได้ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เน้นสำหรับบางประเทศที่ไม่ต้องการความช่วยเหลือหรือแม้กระทั่งประเทศชาตินิยม
ถึงแม้ว่ายังมีข้อถกเถียง และความตรึงเครียดเกี่ยวกับสัญญาและการจัดหา AstraZenecaระหว่างสหราชอาณาจักรผู้ผลิต กับสหภาพยุโรป กับความรู้สึกไม่พอใจเกี่ยวกับการจัดหาที่ไม่ทันเวลาในหลาย ๆ ครั้ง
สิ่งเหล่านี้ไม่มีผลในการลงนามร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาที่ผ่านมา เห็นได้จากรายชื่อผู้เข้าร่วมลงบันทึกร่วมกันในการแก้ปัญหา การต้องการสร้างความสามัคคีเพื่อสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็ง และเป็นกุญแจสำคัญเพื่อสร้างเครื่องมือในการแก้ไขการแพร่ระบาดในอนาคต
ผู้นำระดับโลกอย่าง Tedors Adhanom Ghebreyesus หัวหน้าองค์กรอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจในการเข้าถึงวัคซีนยา และการวินิจฉัยที่ปลอดภัยมีประสิทธิภาพและราคาไม่แพงและเป็นธรรมสำหรับการแพร่ระบาดนี้ เราเชื่อว่าหลาย ๆ ประเทศควรร่วมมือกันทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศฉบับใหม่สำหรับการเตรียมพร้อม และรับมือกับการระบาดของโรค”
ยังมีข้อที่น่าสังเกตุบางประการเกี่ยวกับการลงนามของสามประเทศที่ไม่พบ จีน สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย ในการลงนามครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม Tedors บอกว่า นี่ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเพราะการแก้ไขจะถูกส่งผ่านไปยังทวิภาคีของแต่ละประเทศทั่วโลกรวมไปถึงประเทศที่ไม่ได้ลงนามไว้
Credit by : สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ