การตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อของโควิท-19 ตามหลักสากลทั่วไปใช้วิธีการตรวจโดยก้านสำลีป้ายสารคัดหลั่งเช่นในโพรงจมูกหรือน้ำลาย ซึ่งสามารถวินิฉัยได้ชัดเจน
แต่มีการค้นพบการคงสภาพของเชื้อที่ทำให้ได้ค่าการตรวจที่แม่นยำจากประเทศจีนในอีกรูปแบบหนึ่ง “การตรวจป้ายทางทวารหนัก” โดยจีนให้เหตุผลว่า โคโรนาไวรัสสามารถติดอยู่ทางทวารหนักหรืออุจาระได้นานกว่าปรกติ
Li Tongzeng รองผู้อำนวยการด้านโรคติดเชื้อแห่งโรงพยาบาล Beijing You’an ให้ข้อมูลว่า การติดเชื้อ Coronavirus สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานในทวารหนักหรือในอุจจาระมากกว่าเชื้อที่ได้รับจากทางเดินส่วนบน น้ำลาย ลมหายใจ และยังมีพาหะบางตัวที่สามารถแฝงตัวได้อย่างเงียบ ๆ เช่นการแฝงตัวอยู่ในลำคอเป็นเวลา 3-5 วัน และผลบางอย่างไม่ตรงและมีความผิดพลาด
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางการจีนได้เริ่มตรวจสอบด้วยวิธีการ swabs เข้าทางทวารหนักกับผู้คนที่เดินทางเข้าประเทศจีน
กระแสการต่อต้านวิธีการตรวจผลเชื้อไวรัสโคโรนาของจีน เห็นได้ชัดจากการออกมาเรียกร้องจากชาวญีปุ่น ถึงผลกระทบจากการได้รับการปฏิบัติ พวกเขาได้ร้องเรียนไปยังสถานฑูตญี่ปู่นประจำประเทศจีน เพื่อให้ยับยั้งการตรวจวิธีที่สร้างความเจ็บปวดทั้งทางร่างการและกระทบทางด้านจิตใจอย่างรุนแรง
มีข้อโต้แย้งถึงวิธีการที่ใช้ยังไม่ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลก ยังไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะในประเทศจีนเอง
Yang Zhanqiu รองผู้อำนวยการแผนกชีววิทยาด้านเชื้อโรค มหาวิทยาลัยหวู่ฮั่น กล่าวกับ Global Times ว่าการวิจัยที่พิสูจน์ได้บอกไว้ว่า การติดเชื้อของไวรัสชนิดนี้ จะสามารถติดเชื้อได้ด้วยระบบทางเดินหายใจส่วนด้านบนที่ไม่ใช่ในส่วนของระบบทางเดินอาหาร หรือระบบย่อยอาหาร และผลที่ได้ประสิทธิภาพที่สุดคือการเช็ดจมูกและลำคอ
“มีหลายกรณีเกี่ยวกับการทดสอบโคโรนาไวรัสในอุจาระของผู้ป่วยที่มีผลในทางบวก แต่ก็ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ได้ว่าได้รับการถ่ายทอดจากการย่อยอาหารของผู้ป่วย” Yang กล่าว
ไม่มีการตอบสนองกับการร้องขอดังกล่าว และในขณะนี้ประเด็นนี้ถูกหยิบยกเป็นข้อถกเถียง รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำการยื่นคำร้องต่อสถานฑูตญี่ปุ่นในกรุงปักกิ่งแล้ว
Credit by :