รายงานตัว สองแกนนำคณะราษฎร นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ทองศูนย์ อุ่นวงศ์ รอง ผบก.ปอท. ที่ กองคับคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก คดีมาตรา112 จากกรณีที่โพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์ในลักษณะหมิ่นเหม่สถาบัน

เหมือนกลั่นแกล้ง ซึ่งเรื่องนี้ นายพริษฐ์ ได้กล่าวว่าตนได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ม.112 แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเหตุมาจากการโพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์ในวันและเวลาใด พร้อมกับกล่าวต่ออีกว่าตนมองว่าการแจ้งความข้อหามาตรา มาตร ม.112 นั้น เหมือนการกลั่นแกล้ง จึงอยากเรียกร้องและให้ทบทวนเรื่องการใช้กฏหมายมาตรา 112 กับประชาชน เนื่องจากมีประมวลกฎหมายอาญามาตรอื่นที่สามารถเอาผิดกับประชาชนได้ และในส่วนของคดีมาตรา ม.112 นายพริษฐ์ ถูกแจ้งความรวมทั้งสิ้น 17 คดี เบื้องต้นทราบว่ามีคดีหนึ่งที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีดีเอส) แจ้งความไว้ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า ในส่วนของ น.ส.ปนัสยา นั้นตนทราบแค่ว่าถูกหมายเรียกมาในคดีเดียวกัน คือ การโพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์ โดย น.ส.ปนัสยา ถูกดำเนินคดีรวมทั้งสิ้น 9 คดี

ถูกเรียกตามหมาย รวมถึง นายอานนท์ นำภา ในฐานะทนายความ เดินทางมา ที่ กองคับคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกัลอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก คดีมาตรา112 เช่นเดียวกัน พร้อมด้วยเยาชนหญิงอายุ 17 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ที่ นายอานนท์ ทราบแค่เพียงว่าเป็นการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเท่านั้น แต่ไม่ทราบว่าเป็นข้อความใด และในส่วนของ เยาวชนหญิงอายุ 17 ปี นั้น ตนไม่ทราบว่าถูกดำเนินคดีข้อหาใดบ้าง แต่ส่วนเรื่องคดีของตนนั้นที่เดินทางมาในวันนี้ เพราะถูกเรียกมาดำเนินคดีมาตรา 112 ซึ่งรวมทั้งสิ้น 8 คดี

รายที่ 55 สำหรับ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย์ ถือได้ว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายเรียก คดีมาตรา112 รายที่ 55 ในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ น.ส.ชลธิชา ได้โพสต์ภาพหมายเรียกในข้อหาตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บคอมพิวเตอร์ ผ่านทางทวิตเตอร์ Lookkate-ChonthichaJangrew โดนระบุว่า ตนได้รับหมายเรียกข้อหา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ให้ไปทราบข้อกล่าวหา ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ซึ่งตนไม่ทราบว่ามาจากโพสต์ไหน แต่ตอนนี้ทำให้ตนนึกไปถึงตอนสืบพยานว่ารู้สึกถูกดูหมิ่น อาฆาตมาดร้าย


ยื่นจดหมาย จากกรณีกลุ่มคณะราษฎรนัดรวมตัวชุมชนเรียกร้องให้รัฐบาทจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาประชาชนทุกคน ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ระลอกที่ 2 นั้น ล่าสุด นายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำคณะราษฎร พร้อมด้วยกลุ่มมวลชนประมาณ 70 คน เดินทางไป ยื่นจดหมายเปิดผนึก ถึง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ กระทรวงการคลัง เพื่อขอให้ตัดลดงบประมาณที่สูงเกินความจำเป็นออกไป โดยเฉพาะงบประมาณของกองทัพ
ผู้ชุมนุมไม่พอใจ แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ปิดประตูไม่ให้กลุ่มมวลชนเข้าไปในกระทรวงการคลัง อีกทั้งไม่มีตัวแทนมารับหนังสือดังกล่าว ที่นำโดย นายภานุพงศ์ พร้อมกลุ่มมวลชน นำมายื่นในครั้งนี้ จึงส่งผลให้ผู้ที่มาร่วมชุมนุมนั้นเกิดความไม่พอใจ พร้อมข่มขู่ที่จะใช้กำลังเปิดประตูกระทรวงการคลัง และปิดถนนซอยอารีย์สัมพันธ์ ซึ่งภายหลังกระทรวงการคลังได้ส่ง น.ส.เฉลิมรัตน์ อิ่มนุกูลกิจ ผู้อำนวยการส่วนบริหารการพัสดุ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ให้มารับเรื่องแทน กลุ่มผู้ชุมนุมจึงแยกย้ายกลับกันไปแบบไม่มีเหตุการณ์ปะทะรุนแรงเกิดขึ้น
เครดิตภาพ : มติชนออนไลน์, คมชัดลึกออนไลน์