ด่วนจี๋ รายงานสถานการณ์โรคโควิช 19 จากสำนักข่าว Asia News Network เผยว่าประเทศมาเลเซีย พบผู้ป่วยติด covid กลายพันธุ์ ในรัฐซาบาห์ แถลงการณ์โดยนายแพทย์ นูร์ ฮิชาม อับดุลเลาะห์อธิบดีกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย โดย เชื้อโควิคชนิดใหม่ที่ถูกพบ เรียกว่า “A701B” คนแก่ และมีลักษณะใกล้เคียงหรือคล้ายคลึงกับโควิชกลายพันธุ์ที่พบในออสเตรเลีย แอฟริกาใต้และเนเธอร์แลนด์ แล้วขณะนี้เบื้องต้นหน่วยงานสาธารณสุขของมาเลเซีย เร่งตรวจสอบเชื้อและยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่า covid กลายพันธุ์ที่พบในประเทศชนิดนี้ จะมีอัตราแพร่ระบาดเร็วกว่าโควิตสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือไม่

นายแพทย์ นูร์ ได้ชี้แจงว่า โควิด 19 นั้นมีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นอยู่เสมอ และเราได้เฝ้าคอยติดตามรวมไปถึงการวิจัยความเกี่ยวข้องของสายพันธุ์ต่างๆ ที่พบในผู้ติดเชื้อ และเราได้ตรวจพบการกลายพันธุ์นี้ ใน 60 ตัวอย่าง ที่นำมาจากผู้ป่วยโรค covid-19 แล้วเรายังไม่แน่ใจว่าสายพันธุ์นี้จะมีระดับการติดเชื้อสูงหรือมีความรุนแรงกว่าปกติหรือไม่ และก่อนหน้านี้ ประเทศมาเลเซียเราก็เคยได้พบกับโควิกกลายพันธุ์มาแล้วก่อนหน้าที่ชื่อ D614G ในรัฐเกดะห์ โดยมีอัตราการระบาดที่รวดเร็วมากถึง 10 เท่าของโควิดสายพันธุ์หลัก และทำให้ รัฐเคดาห์ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
รัฐบาลมาเลเซีย ก็ยังไม่หวนบังคับใช้มาตรการการแยกกับตัวจาก 10 วันเพิ่มเป็น 14 วัน โดยให้เหตุผลว่าเป็นระยะที่ไม่ต่างกัน
คงต้องเฝ้าติดตามข่าว ประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซียของไทยเราอย่างใกล้ชิด เพราะว่าตราบใดที่เจ้า โรคโควิด ร้ายนี้ยังคงระบาดอยู่ทั่วโลก ก็ย่อมไม่เป็นการส่งผลดีต่อประเทศไทยเรานั้นเอง ฉะนั้นประเทศไทยเราก็ควรจะตั้งมั่น และ รู้จัก ความปลอดภัย แต่เรื่องอนามัยของตน เพราะว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุร้ายนี้เกิดขึ้นแก่ตน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขออย่าให้ประเทศไทยได้พบกับ covid 19 กลายพันธุ์นี้เลย..

อนึ่ง สำหรับ covid กลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้นั้นมีชื่อเรียกว่า n501y ซึ่งมีลักษณะ บางอย่างคล้ายโควิดกลายพันธุ์ในสหราชอาณาจักร ซึ่งรัฐมนตรีสาธารณสุขแอฟริกาใต้ ได้แถลงเตือนถึงภัยคุกคามของ covid กลายพันธุ์ชนิดนี้ คือนอกจากจะพบว่ามันมีอัตราการแพร่ระบาดที่รวดเร็วแล้ว ยังพบว่าคนวัยรุ่น ที่มีสุขภาพแข็งแรงก็กลับมาป่วยหนักหลังติดไวรัสดังกล่าวได้ และขณะเดียวกัน ที่ประเทศอังกฤษนั้น ได้แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิคกลายพันธุ์ชนิดใหม่อย่างน้อย 2 คน ในกรุงลอนดอนโดยผู้ป่วยทั้งสองคนเป็นบุคคลที่เดินทางไปแอฟริกาใต้ โดยรัฐบาลอังกฤษ ก็ได้ให้แยกกักตัวในทันที นอกจากนี้ทางการอังกฤษอย่างประกาศเตรียมยกระดับการคุมเข้มพื้นที่เสี่ยง เป็นระดับสูงสุดหรือเทียร์ 4